หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่จะต้องสู้รบ ปรบมือกับน้องหมาสุดรักทุกครั้งที่ต้องการจะให้เข้ากรง  และเมื่อสงครามสงบแล้ว  หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับสียงเห่าหอน  เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยฉันออกจากกรง  ถ้าเป็นเช่นนั้นลองมาดูกลยุทธ์-ขั้นตอนในการฝึกให้น้องหมาอยู่ในกรงได้อย่างมีความสุขกันดีกว่าคะ
              กลยุทธ์ที่ 1.  เตรียมกรง  โดยกรงควรมีขนาดกว้างพอสำหรับให้สุนัขสามารถลุกขึ้นยืน  และหมุนตัวได้  ทั้งนี้ถ้าหากไม่ต้องการสิ้นเปลืองการซื้อกรงหลาย ๆ ครั้ง  ก็ให้ซื้อกรงขนาดใหญ่เผื่อเอาไว้เมื่อสุนัขโตเต็มวัยเลยก็จะยิ่งดี
              กลยุทธ์ที่ 2.  ทำกรงให้น่าอยู่  เมื่อนำสุนัขเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว  ให้นำกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับสุนัขได้ไปไว้ในกรง  เช่น  การกินข้าวในกรง  เล่นในกรง ให้ขนมในกรง  เป็นต้น  สิ่งเหล่านี้จะสามารถสร้างบรรยากาศดี ๆ ของการอยู่ในกรงให้กับสุนัขได้อย่างดีเยี่ยม
             กลยุทธ์ที่ 3.  จัดตารางเวลาให้น้องหมา  นอกจากการนำกิจกรรมที่สร้างบรรยากาศ  และความรู้สึกดี ๆ ให้กับสุนัขไปไว้ในกรงแล้ว  คุณจะต้องจัดตารางเวลาที่แน่นอน  เป็นประจำทุกวันให้น้องหมา  เช่น  เช้าออกมาจากกรง  ให้ขับถ่าย  วิ่งออกกำลังกาย  แล้วเข้ากรง  หลังจากนั้นอาจจะปล่อยเค้าออกมาเป็นเวลาไป  เช่น กลางวัน – เย็น  เพื่อให้สุนัขได้ขับถ่าย  แล้วให้เข้านอนตอนกลางคืนอย่างนี้เป็นต้น  ซึ่งควรจะเป็นเวลาเดิมทุก ๆ วัน  แล้วสุนัขก็จะรู้เวลาเข้าออกจากกรงได้โดยอัตโนมัติ
              กลยุทธ์ที่ 4.  อย่า! ใจอ่อนเด็ดขาด  บ่อยครั้งที่การฝึกให้สุนัขอยู่กรงมักไม่ประสบความสำเร็จ  เพราะเรามักจะทนกับเสียงครวญครางของลูกหมาตัวน้อย ๆ ในวันแรก ๆ ของการเข้ามาอยู่ในบ้านไม่ไหว  ก็เลยยอมใจอ่อน แล้วคิดว่า “ปล่อยออกมาแค่วันนี้วันเดียวคงไม่เป็นอะไรมั๊ง  พรุ่งนี้ค่อยให้อยู่ในกรงแล้วกัน”  ถ้าหากคุณคิดเช่นนั้น  ก็ขอบอกได้เลยว่าในวันพรุ่งนี้คุณจะได้ยินเสียงเห่าเรียกจากกรงน้องหมา  ที่ดังกว่า  และนานกว่าวันนี้เป็น 2 เท่า  เพราะสุนัขคิดว่า  เสียงร้องของเค้า  เป็นสิ่งที่ทำให้คุณพาเค้าออกมาจากกรง  ซึ่งก็หมายความว่าคุณได้ให้รางวัล  โดยการอุ้มเค้าออกมาจากกรงเมื่อเค้าเห่าเรียกไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว  แล้วการฝึกให้อยู่ในกรงก็จะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้น  อย่างไม่น่าเชื่อ 
             วิธีการฝึก  สำหรับท่านที่อยู่ในหมู่บ้าน  ให้เตรียมห้องที่คิดว่าจะสามารถเอากรงเข้าไปตั้งไว้ได้  และเก็บเสียงได้มากที่สุด  เพราะเสียงเห่าของน้องหมา  อาจจะรบกวนเพื่อนบ้านก็ได้  เมื่อหาห้องที่เหมาะสมได้แล้ว  ก็ให้เอากรงเข้าไปไว้ในห้องนั้น  แล้วพาน้องหมาเข้าไปอยู่ในกรง  ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามขั้นตอนในข้างต้น  เชื่อว่าในวัน สองวันแรก  อาจจะมีเสียงร้องบ้าง  ก็ไม่ต้องเป็นกังวลถือเป็นเรื่องปกติ  ถ้าหากสุนัขส่งเสียงร้อง  ก็ไม่ต้องให้ความสนใจ  แต่ถ้าเป็นเด็กดี  นอนเงียบเรียบร้อย  ก็อาจจะเข้าไปกล่าวชม  ลูบเบา ๆ และให้รางวัลเป็นขนมสักชิ้น  ก็น่าจะดีไม่น้อย 
            หลังจากที่น้องหมาสามารถอยู่ในกรงได้อย่างเป็นปกติสุขแล้ว  เราอาจจะย้ายกรงออกจากห้องดังกล่าว  แล้วให้น้องหมามาอยู่นอกบ้าน  หรือในสถานที่อื่น  ที่เราได้จัดเตรียมเอาไว้ก็ได้  แต่ควรจะเป็นที่ ๆ มีอากาศถ่ายเท  โปร่งเย็นสบาย  และมีร่มตลอดทั้งวัน  ก็จะดีที่สุด   
            หมายเหตุ  หากคุณฝึกให้สุนัขขับถ่ายนอกกรง  ให้สังเกตเสียงเห่าของสุนัขด้วยว่า  เค้าเห่าเพราะต้องการจะขับถ่ายรึเปล่า  เพราะถ้าหากเข้าใจผิดว่าเค้าเห่าเพราะเหตุผลอื่นละก็  กรงนอนอาจจะกลายเป็น สุขาไปก็ได้นะจ้ะ (ดูวิธีการฝึกขับถ่ายได้   ในอึเป็นที่  ไม่ฉี่เรี่ยราด)

     หากมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการให้สุนัขนอนในกรง สามารถไปโพสต์คำถามได้ที่เว็บบอร์ดค่ะ ครูอุ๊จะไขปัญหาให้

      จากหนังสือ // ง่ายแค่พริบตา  ฝึกหมาให้แสนรู้ โดย : ครูอุ๊